การเรียนภาษาจีนให้ได้ผล ฉบับผู้เรียนจริงและใช้งานจริง

การเรียนภาษาจีนให้ได้ผล ฉบับผู้เรียนจริงและใช้งานจริง

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้โอริมอสมีเนื้อหาดีๆมานำเสนอกับทุกท่านอีกเช่นเคยนะครับ ผมว่าทุกๆคนน่าจะต้องเคยเรียนภาษาอังกฤษกันมาตั้งแต่เด็กๆกันใช่ไหมครับ บางท่านอาจจะเคยเรียนภาษาอื่นๆมาอีกด้วย โดยเฉพาะภาษาจีนที่ตอนนี้ฮิตมากๆในหมู่โรงเรียน 3 ภาษา แต่หลายๆท่านก็เรียนกันมาตั้งนานแสนนานหลายปี แต่ก็ยังใช้สื่อสารได้ไม่ค่อยคล่อง หรือใช้ได้แต่มีข้อจำกัดเต็มไปหมด ทำไมเราถึงใช้ภาษาที่เราเรียนมาตั้งนานได้ไม่คล่องสักที ?! วันนี้โอริมอสมีความรู้จากประสบการณ์ของผมเอง เด็กไทย เรียนโรงเรียนไทยมาโดยตลอด แต่สามารถเรียนและใช้ภาษาอังกฤษ​ เยอรมัน และจีนได้อย่างคล่องแคล่วในระดับที่ใช้ทำงานหาเงินได้จากภาษาเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟังนะครับ ซึ่งแน่นอนว่าบทความนี้เราจะเน้นไปที่ภาษาจีนครับ !

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า วิธีการเรียนภาษาในโรงเรียนไทยนั้นผิดพลาดมหันต์เลยทีเดียว (ไม่ต้องบอกก็รู้อ่าเนอะ ฮ่าๆ)​ เราเรียนกันแค่สองทักษะเป็นส่วนใหญ่คือ อ่านกับเขียน แต่ทักษะเริ่มต้นทางธรรมชาติของภาษาคือ ฟังกับพูด แน่นอนว่า คนไทยเราเลยเรียนภาษาอังกฤษกันมาเป็นสิบๆปีแต่ไม่ยักจะพูดภาษาอังกฤษคล่องกันสักที 

ที่พูดมานี้ ผมไม่ได้จะบอก ให้ละทิ้งการเรียนแกรมม่า การอ่านการเขียนไปนะครับ การเรียนภาษาคือการฝึกทักษะทั้งสี่นี้ เพราะฉะนั้นการเรียนที่ได้ผลคือฝึกไปพร้อมๆกันทั้งหมด โดยเฉพาะต้องฝึกทักษะการฟังและการพูดเยอะๆ แล้วเชื่อไหมครับ การอ่านกับการเขียนก็จะง่ายขึ้นเองตามลำดับขั้นของการเรียนภาษาไปเรื่อยๆ 

โดยเฉพาะภาษาจีน พูดตรงๆเลยนะครับ การเป็นคนไทยนี้ทำให้เรามีข้อได้เปรียบในการเรียนภาษาจีนเยอะมากจริงๆเมื่อเทียบกับคนชาติอื่นๆ อย่างแรกเลย ภาษาไทยมีวรรณยุกต์ ภาษาจีนก็มีเช่นกัน วิธีการออกเสียงภาษาจีน แม้แรกๆอาจจะฟังดูออกเสียงคล้ายกันไปหมดเลย แต่ถ้ามีวิธีการเรียนที่ถูกต้องละก็ สามารถเรียนรู้ได้ภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเองครับ เทียบกับฝรั่งที่มาเรียนภาษาจีนแล้ว เรามีข้อได้เปรียบอยู่เต็มไปหมด 

นอกจากนั้นรูปแบบการวางประโยค หรือวิธีแนวคิดในการสร้างประโยคของภาษาจีนกับไทยก็คล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้งผมยังอัศจรรย์ใจอยู่เรื่อยๆว่านี่อาจจะเป็นภาษาพี่ภาษาน้องกันก็เป็นไปได้ เทียบกับการวางประโยคในภาษาตะวันตก เช่นภาษายุโรปต่างๆ คนไทยเราจะเรียนภาษาจีนได้รวดเร็วกว่าภาษาพวกนั้นเยอะเลยละครับ 

มาถึงตรงนี้หลายๆท่านอาจจะเห็นข้อได้เปรียบอยู่เต็มไปหมดเลยใช่มั้ยครับ น่าแปลกที่บางครั้ง การเรียนภาษาจีนที่ผ่านมากลับกลายเป็นว่าเราใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบเหล่านั้นได้อย่างไม่เต็มที่ ซึ่งอาจจะเป็นปัญหามาจาก รูปแบบการเรียนที่ไม่ถูกต้องหรืออาจารย์ที่ไม่รู้วิธีสอนและวิธีฝึก วันนี้ผมจะเล่าวิธีง่ายๆในการฝึกครับ !

อันดับแรก คุณต้องฝึกฟังเยอะๆ โดยเฉพาะจากเจ้าของภาษา หากฟังด้วยหลากหลายสำเนียงได้ยิ่งดี เพราะว่าการฟังคือพื้นฐานของการพูดเลยครับ ถ้าคุณฟังไม่รู้เรื่อง คุณจะพูดไม่รู้เรื่องด้วยเช่นกัน แรกๆคุณจะรู้ทรมานสักเล็กน้อยเวลาที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง จะว่าไปมันก็เหมือนกับการออกกำลังกายนะครับ แรกๆเราออกแปปเดียวก็เหนื่อยจะแย่แล้ว แต่พอกล้ามเนื้อแข็งแรง เราจะสามารถออกได้นานมากขึ้น ทักษะทางภาษาก็เช่นเดียวกันเลยครับ ยิ่งคุณฝึกฟังเยอะๆ คุณจะยิ่งฟังออกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการฟังด้วยสำเนียงจากเจ้าของภาษา

ต่อมาคือการพูด ฟังแล้วพูด คือพื้นฐานเลยครับ แน่นอนว่าเวลาเรียนในห้องเรียน หากเรามีโอกาสโต้ตอบกับครูมากๆ จะเป็นโอกาสที่ดีมากๆเลยครับที่ทักษะของเราจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นถ้าต้องฝึกนอกห้องด้วยนะครับ คุณจะไปไวมากๆ ลองสร้างสิ่งแวดล้อมขึ้นมาดูสิครับ สิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษาจีน คุณอาจจะลองฟังเพลงภาษาจีน ดูหนังภาษาจีน แล้วร้องตาม พูดตาม รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างก็ไม่เป็นไร รู้แค่ว่าเราสนุกกับการออกเสียงแปลกๆที่เราไม่คุ้นเคยไปเรื่อยๆ แล้วสำเนียงเราจะดีขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเลยแหละครับ ยิ่งถ้าใครมีโอกาสได้ไปอยู่ในประเทศที่ใช้ภาษาจีนแล้วละก็ โอกาสมีติดตัวคุณตลอด 24 ชั่วโมงเลยละครับ

ต่อมาคือทักษะการอ่านและเขียน โดยเฉพาะพวกแกรมม่าและหลักภาษาทั้งหลาย ตรงนี้จำเป็นนะครับ เราไม่สามารถละทิ้งไปได้เลย (ซึ่งโรงเรียนไทยหลายๆแห่งก็เน้นซะตรงนี้ที่เดียวซะด้วย) หากเราได้เรียนกับครูคนไทยที่เก่งๆ ตรงนี้จะไปได้ไวมากเลยครับ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มแรก ส่วนในระดับสูงที่เราใช้ภาษานั้นๆสื่อสารได้แล้ว การเรียนกับผู้เชี่ยวชาญก็จะยิ่งทำให้เราเก่งยิ่งขึ้นครับ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ หากเราสักแต่ว่าเรียนหลักภาษาไปเรื่อยๆโดย เน้นจำๆไป เราจะไม่สามารถควบคุมการใช้ภาษาจีนได้เลยครับ เราต้องสามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริงว่าทำไมรูปแบบประโยคมันเป็นแบบนี้ หลักคิดอะไรที่อยู่เบื้องหลักรูปแบบประโยคแบบนี้ หรือแม้แต่วัฒนธรรมอะไรที่ทำให้คนที่พูดภาษาจีนถึงได้สื่อสารออกมาในรูปนี้ ซึ่งตรงนี้ถ้าอาจารย์ไม่มีความรู้แน่นจริงๆ จะไม่สามารถทำให้เราเข้าใจได้เลยครับ เราจะทำได้แค่ก็จำๆไป ก็เค้าพูดกันแบบนี้ แล้ววันหนึ่ง เมื่อไม่ได้ใช้เราก็จะลืมครับ เพราะเราไม่เคยเข้าใจมันเลย แต่ถ้าเราเข้าใจมันจริงๆ ต่อให้เราไม่ใช้มันมานาน แต่พอวันหนึ่งจะต้องใช้เราก็จะสามารถดึงมันออกมาได้ครับ 

เหมือนกับการเล่นกีฬาที่ผมเปรียบเทียบไปเลยครับ หากเราไม่ได้เล่นกีฬาประเภทนั้นๆนานๆ เราอาจจะลืมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆไปบ้าง เช่นองศาการง้อมือ การก้าวเท้า แต่มันไม่เคยจากไปไหนหรอกครับ วันนี้เมื่อคุณต้องลงแข่งและได้ฝึกซ้อมอีกเล็กน้อยก่อนหน้า คุณก็ยังจะสามารถใช้ทักษะนั้นได้อยู่ การเรียนภาษาก็เหมือนกันเลยครับ มันคือการฝึกทักษะเหมือนกับการเล่นกีฬาเลย มันคือการฝึกทักษะสมองในส่วนของการเข้าใจและสื่อสาร ทักษะการออกเสียงในช่องคอ ทักษะการขยับรูปปาก ทักษะการสังเกตท่าทาง เมื่อคุณยิ่งฝึกก็จะยิ่งเก่ง

ผมฝึกแบบนี้มากับทั้งภาษาอังกฤษที่ผมหาวิธีการฝึกมามากมายจนกว่าจะพูดคล่องแบบไร้สำเนียง จากนั้นผมก็ฝึกกับภาษาเยอรมัน และท้ายสุดกับภาษาจีนเมื่อผมได้มีโอกาสไปเรียนต่อที่ไต้หวัน ทุกวันนี้ผมก็ยังใช้ภาษาจีนในการทำงานอยู่กับคนไต้หวัน คนแผ่นดินใหญ่ คนฮ่องกง คนมาเลย์ คนสิงคโปร์ 

หากคุณไม่มั่นใจว่าควรจะต้องเริ่มต้นอย่างไร หรือวิธีที่ทำอยู่มันถูกต้องแล้วหรือเปล่า ลองมาปรึกษาและลงเรียนกับทางคอร์สภาษาจีนของโอริมอสดูได้ครับ มันเป็นวิธีการเรียนที่ผมและพาร์ทเนอร์ได้สร้างมาจากประสบการณ์การเรียนภาษาจีนของพวกเราจริงๆ คอร์สภาษาจีนของพวกเราสร้างขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการให้ฝึกทักษะอย่างครบถ้วนจริงๆ โดยเฉพาะทักษะการฟังและการพูด เพราะเราจะเน้นการเรียนตัวต่อตัวกับเจ้าของภาษา อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่มีพื้นฐานใดๆมาก่อนเลย เราจะมีการปูพื้นฐานกับครูคนไทยก่อน เพราะในส่วนนี้หากได้เรียนกับครูคนไทยที่เก่งๆจะไปได้ไวกว่าเริ่มกับเจ้าของภาษาเลย หลังจากพื้นฐานเพียงพอแล้ว พอไปเจอเจ้าของภาษาจะเรียนไปได้ไวและสนุกมากๆเลยครับ เหมือนยกคลาสเรียนจากไต้หวันส่งตรงมาถึงคุณเลย หากท่านใดสนใจสามารถเข้าไปอ่านในหน้า Chinese Course ของเรา หรือสามารถติดต่อสอบถามเรามาได้ทุกช่องทางเลยครับ 

วันนี้ทางโอริมอสหวังว่าทุกท่านจะได้รับความรู้และเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนภาษามากขึ้นนะครับ ทางโอริมอสของเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน เราเชื่อว่าโอกาสที่ดีเกิดกับทุกคนได้ โดยเฉพาะหากมีทักษะทางภาษาจีนติดตัวมากขึ้น

ฟรี! ติดต่อเราเพื่อเข้ารับคำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

Orimos P'Kong
orimos.education@gmail.com

อดีตนักเรียนทุนรัฐบาลไต้หวัน TaiwanICDF ปี 2018-2020 คณะ IMBA NCCU Business School ชั้นนำของไต้หวัน และเป็นอดีตประธานนักเรียนประจำรุ่นของ IMBA NCCU 2019-2020 เคยศึกษากฎหมายระดับปริญญาโทที่ประเทศเยอรมัน (เกียรตินิยม) ปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรนิยมอันดับหนึ่ง

No Comments

Post A Comment